ภาพข่าวจาก NHK ที่ได้นำเสนอเรื่องราว ครั้งเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเสด็จเยือนประเทศญี่ปุ่นครั้งแรกในปีพุทธศักราช 2506 โดยพระองค์ได้รับเชิญให้เป็นพระราชอาคันตุกะของสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ โดยในเนื้อข่าวได้กล่าวว่า

“เมื่อปีโชวะที่ 39 สมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตะแห่งประเทศญี่ปุ่น ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรกในฐานะองค์จักรพรรดิแห่งโชวะ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลดุลยเดชได้เสด็จพระราชดำเนินออกให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น นับว่าเป็นการรักษาความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศมาเป็นระยะเวลายาวนาน

ในปีเฮเซย์ที่ 3มเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ (โอรสในสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตะ) และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ ได้เสด็จเยือนประเทศไทย และประเทศอื่นๆ รวมทั้งหมด 3 ประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นการเสด็จเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการครั้งแรกของพระองค์

และในปีเฮเซย์ที่ 18 สมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินีทรงเข้าร่วมพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลภูมิพลอดุลยเดชอีกด้วย”

* ประเทศญี่ปุ่นนับปีตามที่พระมหากษัตริย์เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ
* ปัจจุบันพุทธศักราช 2559 คือปีเฮเซย์ที่ 28

capture-20161018-151240

นับว่าความสัมพันธ์ของประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นเป็นความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอด เมื่อสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะทรงทราบข่าว “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลดุลยเดชเสด็จสวรรคต” เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม 2559 ทั้ง 2 พระองค์ก็ทรงตั้งพระทัยที่จะไว้ทุกข์เป็นเวลา 3 วัน โดยข่าวดังกล่าวได้ทำการแถลงผ่านทางสำนักข่าวจิจิ เพรส รายงานจากสำนักพระราชวังอิมพีเรียลแห่งประเทศญี่ปุ่น

นอกจากสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะแล้ว นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของประเทศญี่ปุ่น ยังได้แถลงคำไว้อาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในวันที่ 13 ตุลาคม 2559 มีใจความดังนี้

“ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งเมื่อได้ทราบการแถลงการณ์เกี่ยวกับการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ข้าพเจ้าขอเป็นตัวแทนรัฐบาลญี่ปุ่นและประชาชนญี่ปุ่น ขอแสดงความเสียใจต่อพระบรมวงศานุวงศ์ รัฐบาลไทยและประชาชนคนไทยทุกท่าน ตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงครองราชย์ในปี 2489 ก็เป็นที่รักและศรัทธาของพสกนิกรไทยมาเป็นระยะเวลานาน 70 ปี ทรงเป็นที่พึ่งทางจิตใจของประชาชน เป็นผู้พัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกรชาวไทยและเป็นผู้นำประเทศไทยให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์

ปี 2526 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศญี่ปุ่น เป็นพระราชอาคันตุกะ และใน ปี 2534 พระจักรพรรดิและพระจักรพรรดินีของญี่ปุ่นทั้งสองพระองค์ หลังจากขึ้นครองราชย์ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยเป็นประเทศแรก ความสัมพันธ์ระหว่างพระราชวงศ์จักรพรรดิญี่ปุ่นและพระราชวงศ์พระมหากษัตริย์ไทยที่มีมายาวนานนี้เป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์อันดีงามและสึกซึ้งระหว่างญี่ปุ่นและไทย

ข้าพเจ้า มีโอกาสเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเมื่อครั้งที่ได้เยือนประเทศไทยเมื่อ ปี 2556 ข้าพเจ้ารู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่งที่ทรงมีความกังวลพระราชหฤทัยต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่โตโฮกุ คุณงามความดีอันยิ่งใหญ่ของท่านที่ทรงเชื่อมมิตรภาพสัมพันธไมตรีอันดีต่อกันของญี่ปุ่นและไทยนั้น จะตราตรึงอยู่ในความทรงจำของชาวญี่ปุ่นทุกคนตลอดไป

เราขอแสดงความโศกเศร้าเสียใจไปพร้อมกับประชาชนไทยทุกคน ขอร่วมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และถวายความอาลัยต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช”

แปลโดยเว็ปไซต์ anngle.org จากแหล่งที่มา Sankei.com
* ได้ทำการแก้ไขจากปีคริสตศักราช เป็นพุทธศักราช

หลังจากที่ได้แถลงคำไว้อาลัยดังกล่าว ในวันที่ 14 ตุลาคม 2559 นายชินโซ อาเบะ ยังได้เดินทางไปยังสถานเอกอัคราชทูต ไทย ณ กรุงโตเกียว เพื่อลงนามถวายความอาลัยอีกด้วย

kingjp

แหล่งข่าวเพิ่มเติม Thairath.co.th