ใกล้จะได้ฤกษ์ฉายเต็มทีแล้วสำหรับผลงานเดบิวต์บนจอเงินของหนุ่มหล่อ ทามาโมริ ยูตะ (Tamamori Yuta) แห่งวง คิสมายฟุต (Kis-My-Ft2) และนักร้อง-นางแบบสาว นิชิอุชิ มาริยะ (Nishiuchi Mariya) กับภาพยนตร์แนว ‘แอบรักออนไลน์’ ที่หลายคนเฝ้ารออย่าง “Raintree no Kuni” เรื่องราวความรักอันแสนบริสุทธิ์ระหว่างคน 2 คนที่บังเกิดขึ้นถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยพบหน้ากันมาก่อนก็ตาม โดยกำหนดฉายในญี่ปุ่นนั้นจะมีขึ้นวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้ แน่นอนแล้ว!
ภาพยนตร์ “Raintree no Kuni” สร้างขึ้นจากนวนิยายขายดีเป็นเทน้ำเทท่าของ อาริกาวะ ฮิโระ (Arikawa Hiro) เล่าเรื่องราวความรักอันแสนบริสุทธิ์ระหว่างคน 2 คนที่ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน โชคชะตาแห่งรักของพวกเขาเริ่มต้นขึ้นหลังจาก ซากิซากะ โนบุยูกิ (รับบทโดย ทามาโมริ ยูตะ) มนุษย์เงินเดือนหนุ่มจากบริษัทด้านอาหารแห่งหนึ่ง เข้าไปท่องเว็บไซต์และได้เจอกับบล็อคเพจๆ หนึ่งชื่อว่า “Rain tree no Kuni” ที่ซึ่งเต็มไปด้วยบทความแสดงความประทับใจที่มีต่อหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งเป็นเล่มโปรดของ โนบุยูกิ มาตั้งแต่เมื่อครั้งเรียนชั้นมัธยมต้น จากนั้น โนบุยูกิ ก็ได้ส่งอีเมลล์เข้าไปหาเจ้าของบล็อคซึ่งเธอมีชื่อว่า ฮิโตมิ (รับบทโดย นิชิอุชิ มาริยะ) และเริ่มสนทนาโต้ตอบกันไปมาผ่านทางอีเมล์เนื่องจาก ฮิโตมิ ปฏิเสธไม่ยอมออกมาพบกับ โนบุยูกิ แบบซึ่งหน้า เมื่อเวลาผ่านไป โนบุยูกิ ก็เริ่มตกหลุมรัก ฮิโตมิ ทำให้เกิดเป็นเลิฟสตอรี่แอบรักออนไลน์ที่น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งว่าสุดท้ายเรื่องราวความรักของพวกเขานั้นจะลงเอยเช่นไร และสาเหตุแห่งความลับที่ ฮิโตมิ ไม่ยอมออกมาพบกับ โนบุยูกิ เป็นเพราะว่าเธอกำลังตกอยู่ในสภาพเกือบจะหูหนวกและต้องใช้เครื่องช่วยฟังใช่หรือไม่?
ช่วงเวลาใกล้จะเข้าฉายแบบนี้ แน่นอนว่าทีมผู้สร้างต้องกำลังทุ่มเทให้กับการโปรโมทแบบสุดตัว ไม่เว้นแม้กระทั่งนักแสดงนำที่ทั้งคู่ได้ทุ่มเทอย่างเต็มที่ให้กับการทำกิจกรรมโปรโมชั่นผ่านการลงมือเซ็นลายเซ็นบนแสตนดี้ 200 ตัวที่เตรียมไว้ใช้ตั้งที่ด้านหน้าโรงภาพยนตร์รวมถึงในร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ ซึ่งนอกจากลายเซ็นแล้ว ทั้ง ทามาโมริ และ นิชิอุชิ ก็ได้เพิ่มข้อความส่วนตัว อาทิ ประโยคพูดจากในหนัง, ภาพวาด หรือลักษณะเฉพาะตัวของตัวเองลงไปบนแสตนดี้แต่ละตัวด้วย
ส่วนใครที่ยังไม่รู้ว่าหนังเรื่องนี้น่าดูขนาดไหนแล้วล่ะก็ ไปรับชมเทรลเลอร์ตัวอย่างของ “Raintree no Kuni” ได้ตามลิงค์นี้ คลิก จากนั้นค่อยเตรียมตัวเตรียมใจไปดูเวอร์ชั่นเต็มหลังหนังเข้าฉายในวันที่ 21 พฤศจิกายน
Credit: jnewseng, oricon, raintree-movie.jp
