ใครที่ได้ดูตอนสุดท้ายของซีรี่ย์อิงประวัติศาสตร์สุดฮิต ‘Nobunaga Concerto’ ที่ออกฉายผ่านหน้าจอ ฟูจิทีวี เมื่อช่วงปลายปี 2014 ที่ผ่านมา ก็คงจะพอเดาได้ว่าอีกไม่ช้าไม่นานละครซีรี่ย์ดีกรีรางวัลจาก ‘83rd Television Drama Academy Awards’ เรื่องนี้จะต้องมีให้ชมกันต่ออย่างแน่นอน ซึ่งในที่สุดก็มีการคอนเฟิร์มออกมาอย่างเป็นทางการแล้วว่า ‘Nobunaga Concerto’ จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ 23 มกราคมปีหน้า!
‘Nobunaga Concerto’ เวอร์ชั่นละครดัดแปลงเนื้อเรื่องมาจากมังงะซีรี่ย์ “Nobunaga Kontseruto” ของนักเขียน Ayumi Ishii ที่ถูกตีพิมพ์เมื่อปี 2009 ผ่านมังงะแมกกาซีนรายเดือน ‘Monthly Shōnen Sunday’ โดยมีนักแสดงหนุ่ม โอกุริ ชุน (Oguri Shun) รับบท 2 คาแร็คเตอร์ ซาบุโระ (Saburo) นักเรียนม.ปลายที่ไม่เอาไหนในเรื่องการเรียนแต่กลับมีฝีมือเป็นเลิศด้านกีฬาที่วันหนึ่งได้เดินทางย้อนเวลาไปในสมัยเซงโกกุ (ปี 1549) และได้พบกับ โนบุนากะ โอดะ (Nobugana Oda) ที่รูปร่างหน้าตาเหมือนกับตัวเองไม่มีผิด โนบุนากะ โอดะ เป็นลูกชายของขุนพลนักรบและผู้ปกครองเมืองที่ยิ่งใหญ่ ทว่าตัว โนบุนากะ เองกลับมีร่างกายที่อ่อนแอ เขาจึงขอร้องให้ ซาบุโระ ที่แข็งแรงกว่ามาสวมรอยแทนตัวเองเพื่อความพยายามรวมญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่งเดียว
เช่นเดียวกับในเวอร์ชั่นละคร โอกุริ ชุน จะกลับมาควบบท ซาบุโระ และ อาเกจิ มิตสึฮิเดะ (Akechi Mitsuhide) อีกครั้งในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่ซึ่งการถ่ายทำกินเวลามากกว่า 2 เดือนเต็มนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทั้งในโตเกียว, เมืองอื่นๆ ในภูมิภาคคันโต รวมถึงเมืองเกียวโต โดยครั้งนี้มีฉากการต่อสู้ใหญ่ๆ หลายฉากด้วยกันที่ต้องใช้ตัวประกอบมากถึง 300 คน แถมยังมีการไปถ่ายทำในสถานที่จริงทั้งที่วัดและในศาลเจ้า อาทิ ศาลเจ้าคามิงาโมะ แห่งเมืองเกียวโต และปราสาทฮิโกเนะ ที่เมืองชิงะ เป็นต้น
โอกุริ ชุน กล่าวหลังปิดกล้องเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า “มีช่วงที่ยากลำบากหลายครั้งเหมือนกันตลอดการทำงานที่กินเวลามากกว่าครึ่งปีสำหรับผลงานชิ้นนี้ แต่ผมก็รู้สึกปลื้มปิติมากที่ได้ใช้ชีวิตเป็น โนบุนากะ โอดะ จนถึงวาระสุดท้ายครับ” “ครั้งนี้ มีฉากต่อสู้หลายฉากเลยที่ไม่ได้มีเฉพาะ ซาบุโระ เท่านั้น แต่ครอบครัวของ โอดะ ก็จะเข้ามาร่วมการสู้รบด้วย และยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่น่าติดตามมากๆ ในเรื่องนี้ รวมถึงบทสรุปว่า ซาบุโระ และ โนบุนากะ ตัวจริงในคราบของ มิตสึฮิเดะ จะลงเอยกันอย่างไร?”
Credit: aramajapan, tokyohive, oricon, asianwiki
