Hey!Say! JUMP SUMMARY 2011

คอนเสิร์ตทัวร์ SUMMARYของHey!Say! JUMP นั้นปิดฉากการแสดงคอนเสิร์ตที่ TOKYO DOME CITY HALL และเคียวเซร่าโดมที่โอซาก้า ที่โตเกียวโดมจะเป็นสถานที่จุดหมายปลายทางสุดท้ายของคอนเสิร์ตทัวร์ในครั้งนี้…..

ในสถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ตประดับประดาไปด้วยลูกบอลลูนคัลเลอร์ฟูลหลากหลายสีสัน และบนเพดานด้านบนของโดมนั้นประดับตกแต่งด้วยลูกบอลลูนสีขาวขนาดใหญ่โตมโหฬาร บรรยากาศของTOKYO DOME CITY HALL นั้นยิ่งใหญ่กว่าอารีน่าอื่นที่เคยคุ้นชินกว่ากันหลายเท่า หลังจากนี้เป็นต้นไปจะท่องไปสู่โลกแห่งความฝันที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง พอJUMPปรากฏกายให้เห็นใน “SUMMARY” แฟนๆก็เหมือนกับถูกปลุกพลังให้ระเบิดความตื่นเต้นออกมาจนถึงขีดสุด! แล้วพวกเขาก็ทยอยเดินมากจากเมนสเตจมาจนถึงเซนเตอร์สเตจตรงกลาง เป็นเวลาเดียวกันกับที่บอลลูนยักษ์สีขาวลอยสูงขึ้นไปยังด้านบนอีกครั้งหนึ่งราวกลับต้อนรับการมาคอนเสิร์ตของแฟนๆทุกๆคน ในช่วงเวลานั้นJUMPก็จับมือกันและกันยืนเรียงแถวยาวหน้ากระดานและค่อยๆลอยสูงขึ้นไปยังเพดานด้านบนของคอนเสิร์ต ในการบินขึ้นไปกลางอากาศในครั้งนี้ พวกเขาได้ตั้งชื่อบอลลูนเหล่านั้นว่า “SUMMARY บอลลูนฟายอิ้ง” พอจับตามองทุกๆคนที่จับมือรวมเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างกังวลใจเพราะไม่รู้ว่าจะขึ้นไปสูงอีกสักเท่าไหร่ด้วยสายตาที่ทำได้แค่เพียงเอาใจช่วย พวกเขาก็ตีลังกากลางอากาศติดต่อกันให้ทุกๆคนได้ประจักษ์เห็นพร้อมๆกัน ด้วยความสูงจากพื้นดินถึง30เมตร พวกเขาที่จู่ๆก็บินขึ้นไปด้วยความสูงขนาดนั้นได้พูดขึ้นมาว่า “หน้าร้อนนี้ยังไม่จบลงหรอกนะ” คำพูดของพวกเขาทำให้จิตใจของผู้ชมที่อยู่ในที่นั้นร้อนแรงขึ้นมาแทบจะในทันที หลังจากบินเสร็จแล้วพวกเขาก็แบ่งกันเป็นสองกลุ่มและขึ้นไปบนเวทีลอยกลางอากาศคนละฝั่ง แล้วก็เล่นเพลงฮิตในสไตล์แมชชิ่งแบนด์ ในช่วงของ “JUMPแมชชิ่งเมดเลย์” (แมชชิ่งแบนด์ คล้ายๆกับเดินสวนสนาม หรือเดินแมชชิ่งแบบวงโยฯ ส่วนใหญ่จะใช้กลองสแน หรือกลองแทคในการตีเข้ากับจังหวะ) และทุกๆคนก็มารวมกันอีกครั้ง เพื่อร้องเพลง “OVER” และต่อด้วยเพลง “Bouken rider” แฟนๆต่างส่งเสียงเชียร์กันดังกระหึ่ม ทุกๆคนต่างเป็นหนึ่งเดียวกันในโดม ในโดมเต็มไปด้วยบรรยากาศอันแสนร้อนแรง ช่วงระหว่างแสดงเพลง “OVER” นั้นได้เกิดเหตุการณ์ที่ยามะดะเรียวสุเกะลื่น แต่ทว่าพวกเขาก็ ส่งความรู้สึกอันร้อนแรง “อยากจะส่งผ่านความรู้สึกที่มีอยู่นี้ไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้” ไปยังแฟนๆทุกคน

จุดเด่นของเป้าหมายในคอนเสิร์ตนี้ จะมีประเทศทั้งหมด 4 ประเทศ ก็คือ น้ำ,ป่าไม้,กระจก และไฟ วนรอบไปทั่วๆทั้งนิวยอร์ก การแสดงในครั้งนี้ เบสจะถูกใช้ในการแสดงแบบ โดมเวอร์ชั่นด้วย ในช่วงที่ยามะดะโซโล่เพลง “Hitomi no screen” นั้น เป็นฉากที่เซตพื้นหลังเป็นผืนผ้าสีแดงเข้ม และลอยขึ้นสูงไปบนกลางอากาศ ยามะดะปรากฏตัวขึ้นมาจากทางด้านหลังของแฟนๆอย่างฉับพลันโดยที่แฟนๆไม่รู้ตัวและไม่คาดคิดมาก่อน ยามะดะแหวกเสื้อแจ็คเก็ตออก เป็นซีนที่เซ๊กซี่เรียกเสียงเชียร์จากแฟนๆกระหึ่มขึ้นมาเลยทีเดียว(ช่วงเมืองแห่งน้ำ) น้ำพุพุ่งขึ้นมาด้วยพลังที่เต็มเปี่ยม จอห์นนี่Jr. กรูกันมายืนถือร่มรอบๆให้บรรยากาศที่ดูเย็นสบาย แล้วนากายามะยูมะก็ปรากฏตัวขึ้นมา และร้องเพลง  “Yokuasobiyokumanabe” “Yumetamago” ด้วยกันกับยามะดะ และชิเนนยูริ เซนเตอร์ตรงกลางถูกเปลี่ยนเป็นสไตล์ป๊อปที่ดูครึกครื้น และฉากบนเวทีก็เปลี่ยนไปเป็นสไตล์JUMPแบนด์ ทาคาคิยูยะขึ้นไปบนเวทีที่ลอยกลางอากาศ ให้บรรยากาศที่ดูเป็นผู้ใหญ่ และร้องเพลง “MIDNIGHT TRAIN” จากนั้น ฟูจิกายะไทสุเกะและทามะโมริยูตะ วง Kis-My-Fts(คิสมาย)ก็ปรากฏตัวออกมาร้องเพลง “promise” ร่วมกันกับยาอาโตเมะฮิคารุ ถัดไปก็ (เมืองแห่งป่า) แสดงเพลง “nemurimori” ทาคาคิสุดเซ๊กซี่ ชิเนน,อาริโอกะไดกิและยามะดะ แต่ละคนทยอยออกมาเข้าฉากต่อสู้กัน ถัดไปทาคาคิก็เคลื่อนที่ขึ้นไปตรงบริเวณเวทีอีกครั้งในชั่วพริบตานั้น ชั่วพริบตาที่มองสภาพการแสดงโดยรวมจากตรงเมนสเตจตรงกลางมายังแบคสเตจข้างหลังเวที เสียงเชียร์ที่เต็มไปด้วยความตกใจและประหลาดใจดังกึกก้องขึ้นมาจากสถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ต ถัดไปอีกเมือง (เมืองแห่งกระจก) เป็นการแสดงเพลง “Garasunoshounen” เต้นสะท้อนเป็นเงาของกันและกันราวกับเป็นหนึ่งเดียวกันของยาบุโคตะและยาอาโตเมะ ในตอนที่แสดงเพลง “itoshinoplaygirl” แบคของทั้ง2คนนั้นสร้างความคึกครื้นขึ้นมา ตึก Jr.แมนชั่นที่อยู่ด้านหลัง ถูกประดับประดาด้วยแสงไฟเป็นรูปหัวใจ เป็นการเริ่มเปิดฉากการแสดงคอนเสิร์ตที่ดูน่ารัก แล้วก็ปิดฉากด้วย (เมืองแห่งไฟ) JUMPทุกๆคนขึ้นไปบนเวทีที่หมุนไปรอบๆ และแสดงดนตรีโดนใช้กลองใหญ่ให้ทุกๆคนดู เพื่อที่จะคงบรรยากาศที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง พวกเขาจึงแสดงต่อด้วยเพลง “Beat Line” ซึ่งเป็นท่วงท่าการเต้นที่ทำให้แฟนๆต่างพากันหลงใหล ถัดไปคิสมายก็ปรากฏตัวขึ้นมาร้องเพลงที่เปี่ยมไปด้วยพลังอันร้อนแรง อีก เพื่อไม่ให้ขาดช่วงเวลามันส์ที่สุดและทำให้อารมณ์ของทุกๆคนพีคขึ้นถึงจุดสูงสุด ในเพลง “FIRE BEAT” เผาไหม้บรรยากาศให้ร้อนระอุยิ่งขึ้นไปอีก ช่วงต่อไปเป็นช่วงที่ยามะดะและอาริโอกะจะต้องท้าทายในการก้าวผ่านท่อนไม้ที่มีความยาวทั้งหมด30เมตร และชิเนนกระโดดบันจี้จั้มพ์ในความสูง30เมตรความสูงเดียวกันกับความยาวของไม้ที่ทั้งสองคนต้องก้าวข้ามผ่านไป บรรยากาศในโดมปกคลุมไปด้วยความประหม่า ตื่นเต้น และเสียงร้องเอาใจช่วย ภารกิจแต่ละช่วงก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี โดยเฉพาะชิเนนที่ได้รับเสียงปรบมือเสียงดังสนั่นจากการแสดงของเขา ได้เห็นใบหน้าที่เปื้อนยิ้มและได้เห็นการท้าทายทำอะไรอื่นๆอีกมากมาย เป็นช่วงการแสดงที่จะต้องไม่ยอมพ่ายแพ้ ใจเย็นๆและผ่านมันไปให้ได้ มันเป็นความรู้สึกที่ประทับและตราตรึงใจมาก

ในตอนสุดท้าย นากายามะ และคิสมายทุกๆคนได้ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง ขึ้นไปบนเวทีที่เคลื่อนไหวได้ และแสดงเพลง “Schoolkakumei”  “Bouken raider” แล้วในเซนเตอร์สเตจตรงกลางนั้น ก็แสดงเพลง “Yuuki 100%” ที่อัพจังหวะให้คึกคักและสนุกสนานมากยิ่งขึ้น แล้วพวกเค้าก็หยุดความสนุกสนานถึงขีดสุดไว้เพียงแต่เท่านั้น และอังกอร์ในครั้งสุดท้ายนั้นพวกเขาร้องเพลงกันจนถึงเพลง “Romeo & Juliet”การแสดงคอนเสิร์ตที่จัดในวันที่24เดือน9นั้น เป็นวันที่ครบรอบ 4 ปี ของHey!Say!JUMPอย่างพอดิบพอดี เพื่อที่จะก้าวไปสู่ปีที่5 พวกเขาได้พูดว่า (อาริโอกะ) “หลังจากนี้ไปพวกเราHey!Say!JUMP จะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อที่จะตอบรับในสิ่งที่ทุกๆคนได้ตั้งความหวังเอาไว้กับพวกเรา แล้วก็เพื่อที่จะส่งมอบรอยยิ้มของพวกเราไปยังทุกๆคน พวกเราจะพยายามอย่างสุดความสามารถเลยครับ” (นากาจิม่า ยูโตะ) เขาได้ประกาศเจตนารมณ์อันเปี่ยมไปด้วยพลังอันแรงกล้าของเขาไปยังแฟนๆทุกๆคนว่า “เพื่อที่สายสัมพันธ์ระหว่างพวกเราและแฟนทุกๆคนจะลึกซึ้งและแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น พวกเรา Hey!Say!JUMPทุกๆคน จะพยายามทำทุกอย่างอย่างสุดความสามารถเท่าที่พวกเราจะอดทนและพยายามทำมันให้ได้เลยครับ!” และยาบุได้กล่าวว่า “พวกเราHey!Say!JUMPรักแฟนๆทุกคนมากๆเลยครับ!” ด้วยถ้อยคำพูดนี้มันเป็นความรู้สึกอันสลับซับซ้อนของJUMPที่ใส่ลงไปในคำพูดเหล่านั้น มันเป็นถ้อยคำพูดที่เต็มไปด้วยความรู้สึกอันอบอุ่น แฟนๆและพวกเขาเองต่างก็มีสิ่งที่จะสื่อถึงกันเหมือนๆกัน มันจึงเป็นความรู้สึกที่ถ่ายทอดถึงกันได้อย่างพอดิบพอดี พวกJUMPเองนั้นก็มีแฟนๆคอยพยุงและเป็นกำลังใจให้ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบ2ปีที่พวกเขาได้ทำการแสดงที่โตเกียวโดมนี้อีกครั้ง บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความร้อนแรงบนเวทีจวบจนถึงการแสดงครั้งสุดท้ายในคอนเสิร์ตนั้นประสบความสำเร็จอย่างยิ่งยวด เป็นอีก1ปีที่จะมุ่งเข้าไปสู่ปีที่5 มันเป็นก้าว 1 ก้าวที่แสนยิ่งใหญ่ และควรเป็นก้าวที่ออกไปเริ่มต้นอย่างเหมาะสม วันนี้คงเป็นอีก1วันที่พวกเขาจะไม่ลืมมันเลย

 

credit: je-family Thailand