app_full_proxy

31 มกราคม วันเกิดของใครกันนะ? แน่นอนว่าต้องเป็นของเขาคนนี้ ยาบุ โคตะ (Yabu Kota) พี่ใหญ่แห่ง เฮย์!เซย์!จัมพ์ (Hey!Say!JUMP) นั่นเอง ที่ปีนี้เขาได้กลายเป็นหนุ่มเต็มตัววัย 23 ปีไปซะแล้ว!

และเพื่อเป็นการฉลองวันเกิดให้กับหนุ่ม ยาบุ วันนี้ JpopTH ก็ได้นำเอาบทแปลของนิตยสาร Duet ฉบับเดือนกรกฎาคมปี 2012 ที่ได้สัมภาษณ์เหล่าสมาชิกของ เฮย์!เซย์!จัมพ์ ไว้ในหัวข้อ “ใบหน้าที่แท้จริงของ Hey!Say!JUMP เฉพาะส่วนของ ยาบุ โคตะ มาให้อ่านกัน…

แปลจากญี่ปุ่น >> ไทย โดย วีนัส (allaboutheysayjump.blogspot.com)

ใบหน้าที่แท้จริงของ Hey!Say!JUMP (Duet 2012.07)

Photo by member

ใช้โอกาสในการกดชัตเตอร์ถ่ายภาพใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม!

ซูมเข้าไปไปในใบหน้าที่แสนเป็นธรรมชาติของ JUMP!

BNZTKJ DU2012-07  (6)

ในหัวข้อเดือนนี้ เพื่อที่เราจะได้เข้าถึงโฉมหน้าและนิสัยที่แท้จริงของ JUMP ได้ เราจึงทำการสำรวจทั้งเรื่องราวส่วนตัวในช่วงนี้และวิเคราะห์ลักษณะนิสัยที่ไม่ใช่แค่พูดถึงแต่ตัวเองเท่านั้น เมมเบอร์คนอื่นๆ ก็จะวิเคราะห์ลักษณะนิสัย & เปิดเผยข้อมูลลับๆ ที่ไม่ควรจะพูดด้วย (?) แล้วเราก็จะได้เห็นโฉมหน้าและนิสัยที่แท้จริงของพวกเขาเลยอย่างนั้นหรอ!? ในหน้านิตยสารนี้จะอัดแน่นเต็มไปด้วยภาพที่ให้เหล่าเมมเบอร์ถ่ายด้วยกันเอง แค่เพียงที่นี่เท่านั้นที่ทุกๆ คนจะได้เห็นความเป็นธรรมชาติของพวกเขาที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลยล่ะ

BNZTKJ DU2012-07  (10)

ยาบุ โคตะ

ผมชอบเดินเล่นท่ามกลางธรรมชาติ ช่วงนี้ผมมักจะเดินไปที่สวนสาธารณะอยู่คนเดียวบ่อยๆ เลยล่ะ พอเดินจนเหนื่อยก็นั่งลงที่ริมแม่น้ำ ทานขนมและน้ำชาที่ซื้อมาจากร้านในละแวกนั้น ไปพร้อมๆ กันกับนั่งสบายๆ ฟังเพลงจากโทรศัพท์มือถือ แล้วผมเองก็ชอบแวะไปดูอะไรหลายๆ อย่างในร้านเครื่องเรือนเฟอร์นิเจอร์หรือร้านขายของชำล่ะ อ๊ะ ใช่แล้วๆ ช่วงนี้ผมไปเจอกลิ่นดอก คินโมคุเซ มาด้วยล่ะ ผมก็คิดอยู่ว่ากลิ่นของดอก คินโมคุเซ ถ้าใช้มันเพียงแค่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงสั้นๆ มันก็จะไม่ค่อยส่งกลิ่นเท่าไหร่ ถ้าเป็นกลิ่นของมันจริงๆ แล้วล่ะก็ ในช่วงระยะเวลาหนึ่งปีเราก็จะได้กลิ่นดอก คินโมคุเซ ปกคลุมไปทั่วเลยนี่นา! ผมคิดแบบนี้ก็เลยซื้อมันมา เพราะอย่างนั้นแล้วในห้องของผมตอนนี้ก็เลยเป็นกลิ่นดอก คินโมคุเซ ก่อนนอนถ้าจุดมันแล้วล่ะก็จะนอนหลับได้สนิทเลยล่ะ

ผมค่อนข้างที่จะเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีนะ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่จนมุมก็จะมีวิธีคิดที่ 「มันก็คงจะต้องมีอะไรสักอย่างดีขึ้นสินะ」เวลาที่ตกใจมากจนทำอะไรไม่ถูกจนสมองขาวโพลนไปหมด เพื่อที่จะไม่ทำให้ตัวเองจะต้องรู้สึกแตกตื่นไปมากกว่านี้ ผมก็มักจะพูดกับตัวเองว่า 「ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร」ด้วยเหมือนกัน ก็แบบว่าถ้าใจร้อนหรือรีบร้อนผลีผลามตั้งแต่แรก เราก็จะแสดงฝีมือหรือความสามารถออกมาได้ไม่เต็มที่ใช่มั้ยล่ะ? แต่ว่านะ มันก็มีความรู้สึกที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ด้วยเหมือนกัน เวลาที่ถ้าตั้งใจหรือพยายามมุ่งมั่นเป็นอย่างมาก แล้วทำมันไม่ได้นี่อารมณ์ก็จะรุนแรงขึ้นมาเลยล่ะ แล้วผมก็เป็นพวกคนที่ถ้าตกลงใจหรือคิดอยากทำอะไรขึ้นมา ก็จะทำมันในทันทีทันใดเลย อย่างเช่น ถ้าคิดว่า 「อยากได้กีตาร์」ขึ้นมาแล้วล่ะก็ จะซื้อมันในทันทีเลย แต่ก่อนตอนที่ผมซื้อชั้นหนังสือผมก็จะไม่รอให้ของมาส่งถึงบ้านราวๆ 3 – 4 วันเลย ผมจะแบกมันกลับบ้านเองกับเพื่อนด้วยกันสองคน ตอนเด็กๆ เองผมก็เป็นแบบนั้นด้วยเหมือนกัน อย่างเช่นเวลาที่ซื้อของเล่นมาจากในห้าง ผมก็จะไม่รอเปิดมันที่บ้าน แต่จะเปิดมันเล่นบนที่นั่งทานข้าวในร้านอาหารเลย (หัวเราะ) นิสัยแบบนั้นมันไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยล่ะ

อ่านบทแปลของสมาชิกคนอื่นๆ เพิ่มเติมได้ ที่นี่ 

Credit: allaboutheysayjump