1 ใน 10 หนังสือไลท์โนเวลน่าอ่านของญี่ปุ่นSakurada Reset (ซากุราดะ รีเซ็ต ภารกิจฆ่าเวลา)” โดยการจัดอันดับของสำนักพิมพ์เอ็นเธอร์บุ๊คส์ (EnterBooks) มีการนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ไลฟ์แอ็คชั่นที่มีคนแสดงจริง ในชื่อไทยว่า “ซากราดะ รีเซ็ท เมืองมหัศจรรย์ คนเปลี่ยนเวลา (Sagrada Reset)”

ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นักแสดงขวัญใจวัยรุ่นญี่ปุ่นอย่าง “ยูอินะ คุโรชิมะ” และ “ชูเฮ โนมูระ มารับบทเป็น    ฮารุกิ มิโซระ และ อาซาอิ เค ซึ่งเป็นตัวละครสำคัญของเรื่องทั้งหมด กำกับการแสดงโดย โยชิฮิโร่ ฟุกะกาว่า (Yoshihiro Fukagawa) และ เคอิ ฮารุนะ (Kei Haruna) รับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์

“ซากราดะ รีเซ็ท เมืองมหัศจรรย์ คนเปลี่ยนเวลา (Sagrada Reset)” เล่าถึงเรื่องราวของเมือง ซากราดะ เมืองที่เต็มไปด้วยผู้มีพลังพิเศษ และเป็นเมืองที่ทุกความปรารถนาสามารถเป็นจริงได้ไม่ยากเมื่ออาศัยพลังของ “ฮารุกิ มิโซระ” สาวน้อยผู้มีพลังพิเศษสามารถรีเซ็ทโลกให้กลับไปเมื่อ 3 วันก่อนได้ และ “อาซาอิ เค” ผู้มีความสามารถในการเก็บรักษาความทรงจำ ความน่าสนใจของเรื่องคือการปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จลุล่วงในแต่ละครั้ง และภารกิจแต่ละครั้งส่งผลต่อโลกที่พวกเขาอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน

แฟนไลท์โนเวลห้ามพลาดฉบับภาพยนตร์ไลฟ์แอ็คชั่น เรื่อง “ซากราดะ รีเซ็ท เมืองมหัศจรรย์ คนเปลี่ยนเวลา (Sagrada Reset)” 18 พฤษภาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

เกี่ยวกับเรื่องราว

ภาพยนตร์เรื่อง ซากราดะ รีเซ็ท เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนิยายขนาดสั้น (ไลท์โนเวล) ของ ยูทากะ โคโนะ ของนิตยสาร คาโดกาวะ โชเทน ภายใต้ชื่อ “ซากุราดะ รีเซ็ท” ที่ได้ถูกเขียนและเผยแพร่ในปี 2009 ถึงปี 2012 เป็นเรื่องราวของกลุ่มนักเรียนมัธยมที่อาศัยอยู่ในเมืองที่แสนเงียบสงบในเมืองซากราดะ แต่หารู้ไม่ว่าในเมืองเงียบๆ แห่งนี้ คนกว่าครึ่งเมืองได้ครอบครองพลังเหนือธรรมชาติ ซึ่งพลังแต่ละคนจะแตกต่างกัน ตั้งแต่ความสามารถเล็กๆ เช่นการสื่อสารกับสัตว์ได้ไปจนถึงความสามารถที่จะรีเซ็ทเวลาที่สามารถเปลี่ยนชะตาของโลกได้เลย

อาซาอิ เค เป็นนักเรียนมัธยมที่มีความสามารถพิเศษในการจดจำทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเคยประสบมา เขาสามารถจดจำรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ได้ทั้งหมด เค ได้รู้จักกับ ฮารุกิ มิโซระ เพื่อนร่วมมัธยมเดียวกัน ความสามารถของเธอคือการรีเซ็ทเวลาเพื่อย้อนเวลากลับไปจุดเริ่มต้นได้มากที่สุด 3 วัน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอรีเซ็ทเวลา เธอจะลืมเหตุการณ์ทั้งหมดที่ผ่านมา ดังนั้นความสามารถของเธอจึงต้องอาศัย อาซาอิ เค เพื่อช่วยเตือนความทรงจำเพราะการรีเซ็ทนั้นไม่ส่งผลอะไรกับความทรงจำของ เค

ทั้งคู่ร่วมมือกันเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกด้วยการพลิกชะตาชีวิตของคนหรือสัตว์ที่อาจจะต้องเสียชีวิตไป เค และ ฮารุกิ จะใช้ความสามารถรีเซ็ทเพื่อช่วยเหลือชีวิตคนเหล่านั้น อย่างไรก็ตาม เค และ ฮารุกิ นั้นเคยมีอดีตที่ร้ายแรงเมื่อพวกเขาได้เสียเพื่อนอย่าง โซมะ สุมิเระ ไปจากผลกระทบของการรีเซ็ทเมื่อ 2 ปีก่อน ความรู้สึกผิดที่พวกเขามีต่อสุมิเระ ได้ทำให้ทั้งสองพยายามหาวิธีที่จะช่วยชีวิตเพื่อนของเขาในอดีตกลับมาด้วยการผนวกพลังของผู้มีพลังที่แตกต่างกัน

ก่อนที่จะมาเป็นภาพยนตร์

นิยายขนาดสั้นของ ซากุราดะ รีเซ็ท ของ ยูทากะ โคโนะ เป็นนิยายที่ประสบความสำเร็จสูงมากทั้งกระแสปากต่อปากที่ทำให้คนหันไปหาอ่านนิยายเรื่องนี้เพราะมันเป็นนิยายที่กล้าเล่าเรื่องการย้อนเวลาผนวกกับความที่เมืองเมืองนี้มีผู้มีพลังวิเศษกว่าครึ่งเมือง ทำให้ผู้คนต้องติดตามว่าต่อไปเราจะได้เห็นพลังวิเศษอะไรต่อไป และพวกเขาจะสามารถแก้ไขภารกิจต่างๆ ของนิยายแต่ละเล่มอย่างไร นิยายไลท์โนเวลของซากุราดะ รีเซ็ทนั้นมีทั้งหมด 7 เล่ม และหลังจากที่ได้ตีพิมพ์ไปไม่นานนักนิยายเรื่องนี้ได้รับการดัดแปลงให้กลายเป็นมังงะ สาเหตุเนื่องมาจากว่ามีกระแสเรียกร้องอย่างล้นหลาม ในที่สุดก็ได้มาเป็นมังงะที่เขียนโดย มาชาฮิโกะ โยชิฮาระ ที่ได้เผยแพร่ในปี 2011 จากความสำเร็จของไลท์โนเวลและมังงะ ทาง คาโดกาวะ ที่เป็นเจ้าของลิทสิทธิ์เรื่องราว ซากราดะ รีเซ็ท ได้ตัดสินใจที่จะวางแผนการสร้างภาพยนตร์และ อนิเมะ ที่มีแผนจะวางฉายในปี 2017

คาโดกาวะ เห็นถึงความสำเร็จของนิยายขนาดสั้นของซากุราดะ รีเซ็ท ที่ได้รับการแปลในหลายประเทศทั่วโลก พวกเขาจึงสนใจที่จะทำให้มันกลายมาเป็นภาพยนตร์ บริษัท โชว์เกท ได้เป็นบริษัทแรกที่มาขอสิทธิ์ในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมาและพวกเขาไม่ลังเลเลยที่จะยอมปล่อยให้สิทธิ์ในการสร้างภาพยนตร์ให้กับบริษัทนี้เพราะประสบการณ์ที่พวกเขามีไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ที่ผ่านมาอย่าง Her Love Boils Bathwater, Ju-on: The Final Curse, Ju-on: The Beginning of the End หรืออนิเมชั่นที่มากมายของบริษัทโชว์เกท ทำให้พวกเขารู้ว่าจะทำอย่างไรให้ภาพยนตร์ออกมาอย่างไรถึงจะตรงใจกับผู้ชม

โลกของซากราดะ

เมืองซากราดะคือเมืองที่มนุษย์มีพลังวิเศษมากกว่าครึ่ง โดยที่แต่ละคนมีระดับและพลังความสามารถที่แตกต่างกัน แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถใช้พลังได้อย่างตามใจชอบ เพราะว่ามีกรมที่ติดตามและควบคุมการใช้พลังที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของคนในเมือง พลังของ ฮารุกิ มิโซระ ถูกจัดว่าเป็นพลังที่อยู่ในเกณฑ์ที่อันตรายมากเพราะสามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของผู้คนได้ กรมที่ควบคุมจึงต้องจับตาการกระทำที่อาจส่งผลกระทบกับพวกเขาและคนในเมือง

อาซาอิ เค และ ฮารุกิ มิโซระ เองก็ระมัดระวังการใช้พลังของพวกเขาเช่นกัน พวกเขาเข้าร่วมชมรมของโรงเรียนที่ชื่อว่า “เซอร์วิสคลับ” เป้าหมายเพื่อที่จะช่วยเหลือคนอื่นๆ ด้วยพลังพิเศษของพวกเขา ตั้งแต่ภารกิจง่ายๆ ที่ตามหาแมวที่หายไปจนถึงช่วยชีวิตคนไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ พวกเขาจะต้องได้รับการอนุญาตจากหัวหน้าชมรมและบันทึกการใช้พลังวิเศษทุกครั้งเพื่อป้องกันความผิดพลาด

โยชิฮิโระ ฟูคากาว่า ผู้กำกับและเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้กล่าวว่า “ผมสนุกไปกับการเขียนให้ตัวละครทำอะไรต่างๆ โอเคผมรู้แล้วล่ะว่า ความสามารถของแต่ละคนเป็นอย่างไร แต่ผมจะเขียนอย่างไรให้มันดูสนุก” โยชิฮิโระ ยกตัวอย่างตัวละครที่เขาชอบมากอย่าง อาซาอิ เค มาพูดถึง “ผมสนุกไปกับเขียนตัวละครของ เค มาก ผมรู้ว่าเขาสามารถจดจำทุกสิ่งทุกอย่างได้ แต่ผมจะต้องเขียนรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่คนดูอาจจะไม่ได้สังเกต ให้กลายมาเป็นเงื่อนงำในการแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ต่อไปได้ เราจึงสนุกในการที่จะเขียนสิ่งต่างๆ ให้มันน่าติดตาม จากความทรงจำและการสังเกต”

โยชิฮิโระ กล่าวว่า “ผมไม่มองว่ามันเป็นเรื่องแฟนตาซีเกินจริงเลยนะ ใครจะรู้ว่ามันอาจจะมีเมืองแบบนี้อยู่จริงๆ ก็ได้ ผมมองว่า ยูทากะ โคโนะ เค้าเก่งมากที่เล่าเรื่องความเหนือจริงให้อยู่ภายใต้ความเป็นไปได้ของโลกนี้” ใครก็ตามที่ได้ออกจากเมืองซากราดะไป จะไม่สามารถจดจำได้ว่าตนเองเคยมีพลังวิเศษ ความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับพลังจะหายไปทั้งหมด

เมื่อกล่าวถึงพลังที่เป็นเรื่องราวหลักของเรื่องนี้ นั่นคือการ “รีเซ็ทเวลา” โยชิฮิโระ กล่าว “ผมเป็นคนที่ชอบดูหนังย้อนเวลา หนังโปรดของผมและผมเชื่อว่าทุกคน คงต้องชอบเรื่อง Back to the Future มันเหมือนกับเบสิกการเล่าเรื่องที่เราทุกคนยึดเป็นแบบอย่าง เนื้อเรื่องการรีเซ็ทเวลาของซากราดะผมก็เชื่อว่ามันก็มีฐานมาจากเรื่องเดียวกัน คือ เราต้องการที่จะย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรบางอย่างที่มันผิดพลาดในอดีต” แต่การรีเซ็ทเวลาของซากราดะนั้น มีกฏเกณฑ์บางอย่างที่ไม่สามารถทำให้ตัวละครนึกจะย้อนเวลาไปช่วงไหนก็ได้ พลังการรีเซ็ทเวลาของ ฮารุกินั้น สามารถย้อนไปได้ไกลที่สุดเพียงแค่ 3 วันเท่านั้น และหลังจากรีเซ็ทแล้ว เธอจะไม่สามารถรีเซ็ทได้อีกเป็นเวลา 1 วัน “นั่นหมายความว่า การที่เธอจะทำการรีเซ็ทนั้นเธอจะต้องคิดไตร่ตรองให้ดีๆ เพราะมันไม่สามารถย้อนกลับไปได้ทุกครั้ง” โยชิฮิโระกล่าว

อีกสิ่งหนึ่งที่โปรดิวเซอร์อย่าง เค ฮารูนะ กล่าวถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ “ผมเชื่อว่า มันมีหลายเหตุผลมากๆ ว่าทำไมนิยายเรื่องนี้ถึงกลายเป็นนิยายยอดฮิต เหตุผลหลักๆ ผมเชื่อว่า มันเป็นเรื่องราวของวัยรุ่น ที่ทุกคนจับต้องได้ มันมีเรื่องราวของความรัก พระเอกที่หล่อ ฉลาด เป็นผู้นำ นางเอกที่แอบชอบพระเอก ยกย่องพระเอกเหมือนกับรุ่นน้องที่แอบหลงรักรุ่นพี่ มันคือเรื่องเบสิกง่ายๆ ที่เราพบเจอได้ในโลกยุคปัจจุบัน ความรักอันบริสุทธิ์ เจตนาที่ดี มันคือมนต์เสน่ห์ของโลกแห่งซากราดะ”

ความแตกต่างของ ไลท์โนเวล VS. มังงะ  VS. อนิเมะ VS. ภาพยนตร์

เป็นที่รู้กันดีว่านิยายไลท์โนเวลเรื่อง ซากุราดะ รีเซ็ท เป็นนิยายที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงจนกระทั่งได้นำไปสร้างมาเป็นมังงะในเวลาต่อมา ความต่างของมันคือในฉบับไลท์โนเวล เราจะได้เห็นรายละเอียดลึกซึ้งที่ ยูทากะ โคโนะ เขียนอย่างตรงไปตรงมา เมื่อมันถูกตีพิมพ์และดัดแปลงให้กลายเป็นมังงะนั้น มันคือการเล่าเรื่องที่อ่านง่าย มีมุขตลก ลายเส้นที่ดึงให้เราขำขันและหลงรักตัวละครได้อย่างง่าย และเมื่อมันได้รับการมาเป็นภาพยนตร์ โปรดิวเซอร์อย่าง เค ฮารูนะ กล่าวว่า ตอนประชุมร่วมกันกับทีม อนิเมะ เขาต้องการที่จะทำให้หนังและอนิเมะมีความต่าง แต่มันก็ต้องทำให้คนที่ได้ดูภาพยนตร์ อยากที่จะกลับมาดูเวอร์ชั่นอนิเมะอีกด้วย

อนิเมะและภาพยนตร์ถูกสร้างและกำลังจะเข้าโรงฉายแทบจะเวลาเดียวกัน ภาษาของภาพยนตร์และอนิเมะ มีความต่างกันมาก โยชิฮิโระ ฟูคูกาว่า กล่าวว่า “ผมตั้งใจเล่าเรื่องให้มันกระชับ เรื่องราวทั้งหมดของหนังสือ ผมจับสิ่งที่โดดเด่นเอามาใส่ไว้ในหนัง 2 พาร์ท เราไม่ต้องกล่าวถึงแบคกราวด์ของตัวละครอะไรมากมาย แต่เราหยิบยกจุดเด่นของแต่ละช่วง แต่ละตอนของหนังสือ เอามาทำให้มันเป็นที่น่าสนใจ แบบรวบรัดสรุปความ”

“เราหวังว่าคนที่ได้ดูหนังโรงภาพยนตร์จะต้องกลับบ้านไปเปิดหาอนิเมะดูต่อแน่นอน” เค ฮารูนะ กล่าว “เพราะในอนิเมะจะทำให้คนดูรับรู้แบคกราวด์ตัวละคร แล้วจะยิ่งทำให้รู้สึกผูกพันกับตัวละครและเรื่องราวที่เกิดขึ้นยิ่งขึ้นไปอีก”

มันคือการรวมตัวกันเพื่อดันเรื่องราวซากราดะ ไปให้ถึงวงกว้างให้มากที่สุด การร่วมมือกันของทีมงานสองฝ่ายทั้งผู้ทำภาพยนตร์และอนิเมะได้ปรึกษาและวางแผนกันอย่างค่อยเป็นค่อยไป จนกระทั่งทั้งสองฝ่ายพร้อมที่จะเผยแพร่ พวกเขาจึงวางแผนที่จะฉายพร้อมๆ กัน

แฟนๆของนักแสดง การ์ตูน และภาพยนตร์สามารถติดตาม “ซากราดะ รีเซ็ท เมืองมหัศจรรย์ คนเปลี่ยนเวลา (Sagrada Reset)” พร้อมกันทั่วโรงภาพยนตร์ไทยได้ 18 พฤษภาคม 2017 นี้