บทสัมภาษณ์จาก อาคานิชิ จิน (Akanishi Jin) จากนิตยสาร VOGUE กับเรื่องราวของ ” SAMURAI IN THE CITY OF ANGELS         อาคานิชิ จิน. เรื่องราวต่อจากนี้” พร้อมภาพการถ่ายแบบสุดคลาสสิค ไปอ่านกันเลยค่ะ….

♥อาคานิชิ จิน เรื่องราวเริ่มต้น ณ บัดนี้
ประตูรถสีดำเปิดออกและอาคานิชิ จิน เดินออกมา สถานที่คือ LA สตูดิโอถ่ายภาพใกล้หาดเวนิช ดาราที่มีเอกลักษณ์อายุ 27 ปี มาโดยไม่ได้โกนหนวดเครา ในแบบชุดลำลอง ใส่แจ็คเก็ตฮู้ดสีดำคู่กับแบคกี้ยีนส์และเสื้อขาวคอวีใต้ฮู้ด นาฬิกาแบบผู้ชายส่องประกายอยู่บนข้อมือ
“จิน อาคานิชิ” เวลาจะมาถึงเมื่อชื่อนี้เป็นที่รู้จักกันกว้างขวางแม้แต่ในอเมริกา ออกซิงเกิ้ลแรกในอเมริกาและแสดงในหนังฮอลลีวู้ดซึ่งคีอานู รีฟส์เป็นดาราใน “47 Ronin” ซึ่งจะเข้าฉายในปี 2012 อย่างไรก็ตาม ไม่มีข้อผิดพลาดว่านี่จะเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ของอาคานิชิ จิน เป็นนักร้องหรือนักแสดง น้อยมากๆที่ดาราชาวญี่ปุ่นจะทำมันได้ในอเมริกา และสำหรับดาราญี่ปุ่นซึ่งทำทั้งสองอย่างนี้ (ในอเมริกา) ยิ่งหาได้ยากขึ้นไปอีก
การสัมภาษณ์นี้นำด้วยจินที่ระเบียงในสตูดิโอ และถูกกำกับเป็นภาษาอังกฤษโดยตลอด สำเนียงของจินชัดมากและเตรียมตัวมาอย่างดี ฉันถามอย่างแรก “คุณคิดยังไงถึงงานของคุณในฮอลลีวู้ด?” หลังจากเงียบไปนาน เขาตอบว่า “ผมไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจน เพราะผมกำลังทำหลายๆอย่างในที่เดียวตอนนี้ และยังคงทำต่อไป เมื่อใดที่ผมคิดว่าเสร็จงานอะไรบางอย่างก็จะมีสิ่งต่อไปเด้งขึ้นมาอีก ผมแค่ต้องโฟกัสไปที่อะไรก็ตามที่ผมทำได้ในตอนนั้น”

ฝากความฝันของเขากับดินแดนใหม่
ตาของเขาปิดด้วยแว่นกันแดดอันใหญ่ พูดถึงอันนี้ ฉันสงสัยว่าที่เขาย้ายมา LA เพราะความสนใจอย่างล้นหลามที่เขาได้รับจากสื่อญี่ปุ่น แต่จริงๆแล้ว สำหรับเขา เหตุผลที่มา LA เป็นเพราะความสนใจในเพลงอเมริกัน ระหว่างพูดถึงแนวเพลงที่เขาชอบ จินเริ่มพูดอย่างตื่นเต้น เขาดูเหมือนว่าติดเพลงของ Eminem ft Lil Wayne’s “No love” เป็นพิเศษ “เพลงช่วยสร้างบรรยากาศจริงๆ ไม่ใช่หรอ?” เขาพูดพร้อมกับฮัมเพลงท่อนฮุกสั้นๆของเพลง “♫It’s a little too late~” (มันสายเกินไปหน่อย~) อีกหัวข้อที่เขามีความสนใจคือเขาทำอะไรบ้างในชีวิตประจำวันในแอลเอ “ญี่ปุ่น อเมริกา ผู้คนที่สีผิวต่างกันและต่างประเทศกันมาด้วยกัน” รู้สึกสนุกกับบาร์บีคิวสไตล์อเมริกันหรือที่เขาอธิบายว่าเป็น “ปาร์ตี้เนื้อ” และช็อปปิ้งที่เบเวอรี่ เซนเตอร์ ดูเหมือนว่าเขายังไม่เจอสถานที่ช็อปปิ้งใกล้กับสถานที่ที่เขาอาศัยอยู่ “มันยากสำหรับผมที่จะหาอะไรดีๆซื้อ มันคงจะเป็นเพราะว่าประเทศนี้มันใหญ่เกินไป” 

♥ความรักที่เขามีต่อดนตรี
จินอธิบายสไตล์แฟชั่นของเขาว่าเหมือน “เซอร์ๆซกมกและลำลอง” “ผมชอบของที่มันจะสามารถใช้ได้นานๆ เช่น เสื้อหนัง” เขาไม่เจาะจงยี่ห้อ และเหมือนกับแอลเอสไตล์เรียบง่าย ใส่กางเกงขาสั้นกับรองเท้าแตะ และ “ปัญหา” ของเขาตอนนี้ คือแม้ว่าเขาจะแต่งตัวเหมือนกับจะไปชายหาด ในความจริง เขาไม่มีเวลาที่จะไปเลย จบถ่ายหนังที่ลอนดอนและบูดาเปสต์ และตั้งแต่เขากลับมาแอลเอในเดือนมิถุนายน เขาใช้เวลาส่วยใหญ่บันทึกเสียงในสตูดิโอ เพลงแรกของเขา “TEST DRIVE” ถูกวางแผงในไม่กี่วันหลังจากนั้น และแม้ว่าเขาเขียนเพลงเองเป็นส่วนใหญ่ เขาบ่นว่านั่นเป็นงานที่เหนื่อยมากจริงๆ “กระบวนการของการแต่งเพลงเป็นไปด้วยความยากลำบาก ยากจริงๆ แต่ความพอใจเมื่อคุณทำสำเร็จเป็นอะไรที่ไม่สามารถหยุดได้”

ในเดือนพฤศจิกายน 2010 จิน เปิดตัวด้วยท้าทายทัวร์อเมริกาเป็นครั้งแรก ไปยังเมืองต่างๆ 5 เมือง และรวบรวมแฟนๆที่หลงใหล และยังไปแสดงสดพิเศษใน MTV เอ็มทีวีอธิบายจินในตอนนั้นว่าเป็น “ศิลปิน J-pop อันดับต้นๆ ซึ่งแต่งเพลงเอง เล่นกีต้าร์ของเขาเอง และยังทำเพลงเองอีกด้วย”

เมื่อสิ้นปี 2010 เขาได้รับการเซ็นสัญญากับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของอเมริกา Warner Music Group และหลังจากนั้น เขาได้ทำงานในการผลิตอัลบั้มของตัวเอง อัลบั้มนี้จะเรียบร้อยในปี 2012 แต่สำหรับตอนนี้ ยังมีข้อมูลที่ยังไม่ได้ตัดสินใจอยู่นิดหน่อย (จินยิ้มเฝื่อนๆ แล้วบอกว่า “เรายังสุมหัวกันอยู่”) แม้ว่าจินจะเป็นแฟนฮิปฮอปแต่เขาจะไม่ยึดติดกับแนวเพลงใดเมื่อคำนึงถึงการเดบิวต์ที่อเมริกาของเขา “เพลงดังๆ เปลี่ยนอยู่เสมอ และคุณต้องตั้งเป้าไปล่วงหน้าหนึ่งก้าวก่อนที่จะพัก แต่สำหรับผม ผมแค่อยากจะทำเพลงที่ดี” เขากล่าว และเขายังบอกด้วยว่าเขาจะดีใจถ้าแฟนๆชาวญี่ปุ่นจะเปิดใจยอมรับเพลงภาษาอังกฤษของเขา “มันคงจะดีถ้าพวกเขาชอบสิ่งที่ผมทำในตอนนี้” และเลือกคำพูดอย่างระมัดระวัง เขาบอก(ถึงแฟนๆ) “ถ้าเพียงแต่ผมจะได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกๆคน (ผ่านการทำงานของเขา)”

♥จิตวิญญาณนักแสดงของเขา
ตอนนี้จินกำลังถือเหยือกกาแฟดำถ้วยใหญ่ในมือ เขาค่อยๆผ่อนคลายในการสัมภาษณ์และและพูดคุยเกี่ยวกับตอนที่น่าสนใจซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างการถ่ายทำหนัง “47 Ronin” หนังเรื่องนี้มีกำหนดฉายในฤดูหนาวปี 2012 ที่ประเทศญี่ปุ่น และยังมีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับซามูไรชาวญี่ปุ่นด้วย อย่างไรก็ตาม มันแตกต่างจากภาคก่อนๆโดยจะมีความแฟนตาซีมากกว่า การถ่ายทำส่วนใหญ่เสร็จสิ้นในยุโรป และแน่ใจว่าจะเป็นงานที่ยืนยันได้ว่าจะเป็นก้าวใหญ่ของอาคานิชิ จิน มันอาจจะเป็นทางความเป็นซุปเปอร์สตาร์อย่างสากล

เขาพูดว่า เขาสนุกมากกับนักแสดงนำคีอานู รีฟส์ และเหตุการณ์ที่น่าจดจำมากที่สุดคงเป็นเมื่อเขาเล่นหมากรุกด้วยกัน ผ่านไปครึ่งทางของเกม พวกเขาก็ต้องกลับไปถ่ายหนังกันต่อ จนในที่พวกเขาก็ต้องจบเกมโดยไม่มีผู้ชนะ ในทีแรก ก็ดูเหมือนเป็นวันปกติธรรมดา แต่ทันใดเขาก็ตระหนักขึ้นมาว่านี่ไม่ธรรมดาเลย “แม้ว่าเราพูดกันอย่างตรงไปตรงมามากๆ แต่ทันใดนั้น ผมก็กลับนึกขึ้นได้ว่า “โอ้ ใช่ คีอานูคือดารารุ่นแรกๆ ที่แสดงเมทริกซ์!” ”

“ระหว่างการถ่ายทำหนัง คุณรู้สึกถึงจิตวิญญาณซามูไรรึเปล่า” จินพิจารณาคำถามของฉันด้วยท่าทางเครียดมาก ดูเหมือนว่าเขาเรียนรู้มากมายเกี่ยวกับการถ่อมตนและความมุ่งมั่น และนั่นคือสิ่งที่สำคัญในอาชีพของเขาในตอนนี้ ซึ่งเค้าได้ก้าวไปข้างหน้าจากญี่ปุ่นถึงเวทีนานาชาติ ในข้อเท็จจริง ดูเหมือนการเตรียมตัวสำหรับการแสดงบทซามูไรไม่ได้ยากมาก “โดยรวม ผมมีความสนุกกับการทำมัน รู้สึกถึงกลิ่นอายของการถ่ายทำหนัง เก็บเกี่ยวสิ่งที่ได้รับการเรียนรู้จากนักแสดงท่านอื่น ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างมากๆจากการแสดง”

กระบวนการถ่ายทำหนังสร้างความตกใจกับเขาอย่างมาก มันเป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่ได้เห็นห้องแต่งตัวที่มีเสื้อผ้าเลื่อนไปรอบๆ (On-the-move dressing rooms or Trailers) ซึ่งใช้โดยนักแสดงหนังฮอลลีวู้ด “ทุกอย่างแปลกตาไปหมด”

และนี่คือครั้งแรกในการสัมภาษณ์ที่เขาถอดแว่นกันแดดออก โชว์ตากลมสีน้ำตาลเข้ม นี่เป็นสัญญาณว่าการสัมภาษณ์กำลังจะจบลง หลังจากนี้จินจากมุ่งหน้าไปถ่ายรูป นี่คือวันธรรมดาทั่วไปในชีวิตของเขา (สัมภาษณ์กับถ่ายภาพ) และก้าวที่สำคัญที่จำเป็นจะต้องมีในการนำไปสู่ความสำเร็จของเขาต่อสากล เพื่อทำงานในวันที่ฝันของเขาจะเป็นจริงในอเมริกา เขาจะต้องเป็นเหมือนกับซามูไรในบทที่เขาแสดง ยังคงความอ่อนน้อมและมุ่งมั่นตั้งใจ และเขาก็รู้ดี

 

Translation: Sunadokei credit: jefamily-thailand