ทั้ง 3 คนมักจะยิ้มด้วยใบหน้าที่อ่อนหวานเยียวยาความรู้สึกของแฟนๆอยู่เสมอ ธีมหัวข้อที่เราจะสัมภาษณ์พวกเขาในครั้งนี้ เราจะให้พวกเขาพูดกันถึงความ SWEETกันล่ะ ในมุมมองความคิดของพวกเขาแล้ว คำว่า “ความอ่อนโยน” และ “ความไม่เข้มงวด หละหลวม ตามใจตัวเอง” คือ…? 

ยามะดะ เรียวสุเกะ

พูดถึงความอ่อนโยนน่ะ มันไม่ใช่มาจากตัวเอง แต่มันเป็นความรู้สึกที่ฝ่ายตรงข้ามทำอะไรสักอย่างให้กับเรามากกว่า เพราะอย่างนั้นแล้วถ้าคุยในมุมที่ตัวเองมีความอ่อนโยนน่ะ ค่อนข้างที่จะพูดออกมาได้ยากเลยนะ แต่ว่าผมอาจจะใจดีกับคนในครอบครัวก็เป็นได้นะ ยกตัวอย่างเช่นตอนที่พี่สาวหรือน้องสาวพูดขึ้นมาว่า “หิวจังเลยน้า~” ผมก็จะรีบทำข้าวให้กินแทบจะในทันที หรือไม่ก็ เวลาปรกติผมก็ไปซื้อของให้คุณพ่อกับคุณแม่เป็นที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตประจำ ส่วนใหญ่คนอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับผมมักจะพูดว่า “การที่จะคุยกับพ่อแม่น่ะ มันจะรู้สึกอายๆ” แต่ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่พวกเขาพูดได้เลย ผมคิดว่า “นั่นเป็นครอบครัวของเราไม่ใช่หรอ มันมีอะไรที่น่าอายอย่างนั้นหรอ?” ล่ะ แล้วก็ถ้าพูดถึงความสัมพันธ์กันในครอบครัวแล้วล่ะก็ ผมเองก็ใจดีกับเหล่าสุนัขและสัตว์เลี้ยงที่ผมเลี้ยงด้วยเหมือนกันนะ เวลาที่ผมกลับบ้านมันก็จะพุ่งเข้ามาหาผมถึงทางเข้าบ้านอยู่เสมอๆเลย แล้วก็จะเข้ามาเลียหน้าผมจนเปียกไปหมดเลยล่ะ(หัวเราะ) เวลาที่เกิดเหตุการณ์อะไรแบบนี้ ผมก็จะปล่อยให้มันทำทั้งๆแบบนั้นเลยนะ แล้วผมก็จะพูดทำนองเหมือนกับว่า “อ๋อ~งั้นหรอๆ” ล่ะ ครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญของทุกๆคน เพราะฉะนั้นแล้วถ้ามีความสัมพันธ์ต่อกันและกันอย่างเป็นธรรมชาติแล้วล่ะก็ เราจะสามารถใจดีและอ่อนโยนต่อกันและกันได้อย่างเป็นธรรมชาติเลยล่ะ

ผมเองก็รู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนของเมมเบอร์NYCอยู่บ่อยๆด้วยเหมือนกัน อย่างเช่นถ้าใครสักคนรู้สึกเหนื่อยและอ่อนล้ามากๆแล้วล่ะก็ เมมเบอร์คนอื่นๆก็จะไม่พูดอะไร แล้วใครสักคนก็จะมาทำให้บรรยากาศรอบๆตัวคึกครื้นสนุกสนานขึ้นมา มันเป็นความรู้สึกที่เห็นอกเห็นใจผู้อื่นแบบค่อยเป็นค่อยไปล่ะ เป็นทีมเวิร์คที่ดีเลยล่ะ

ถ้าพูดถึงความหมายของคำว่า “ความไม่เข้มงวด  หละหลวม ตามใจตัวเอง” แล้วล่ะก็ ตัวผมเองยังไม่ได้ตระหนักถึงความรู้สึกตรงนั้นสักเท่าไหร่ เวลาที่ผมเลือกที่จะทำเป้าหมายอะไรก็ตามแต่ ก่อนอื่นเลยผมก็จะพยายามทำอย่างสุดความสามารถจนกว่าจะประสบความสำเร็จ แต่ว่าหลังจากที่ผมทำสำเร็จแล้ว หลังจากนั้นผมจะตกอยู่ในสภาพที่ไม่อดทนที่จะทำมันต่อไปเรื่อยๆได้ล่ะ ผมจะมีความปลงกับเรื่องนี้ค่อนข้างยาวนานเลยล่ะ ถ้าจะพูดถึงความไม่เข้มงวดในเรื่องอื่นๆแล้วล่ะก็…(คำพูดถึงผู้หญิงนิรนามPที่เป็นคนทำอะไรตามใจตัวเองคือ?) ก็คงเป็นแบบนั้นล่ะมั้ง มีแหละน่า!(หัวเราะ) ก็แค่ ตอนที่ผมอ่านตามนิตยสารต่างๆ แล้วลองศึกษาดู หากพูดถึงเด็กผู้หญิงน่ะ ถ้าเธอมีคนที่ชอบแล้วล่ะก็ เธอจะรู้สึกดีใจเวลาที่คนที่เธอชอบกอดเธอจากทางด้านหลังใช่มั้ยล่ะ? ผมฝันที่อยากจะมีฉากสถานการณ์อะไรที่ดูหวานๆ~ แบบนั้นล่ะ แต่ทว่า ช่วงนี้มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงว่าผู้หญิงจะมีส่วนสูงที่สูงกว่าผมเยอะ เพราะฉะนั้นแล้ว การแอบเตรียมกล่องต่อตัว(เวลาที่ถ่ายแบบ จะใช้กล่องที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมรองไว้ทำให้ดูสูงขึ้น)ก็คงไม่ต้องเตรียมล่ะน้า… มันเป็นความคิดเห็นฉบับย่อๆของผมล่ะนะ พอทีเถอะการคุยในเรื่องแบบนี้น่ะ(หัวเราะ)

จิเนน ยูริ

ผมคิดว่า ผมไม่มีความอ่อนโยนล่ะ(หัวเราะ) ผมไม่ค่อยมีความรู้สึกที่อยากจะใจดีเลยล่ะ เวลาอยู่กับเพื่อนผมก็เป็นพวกคนที่เล่นมุขกลับไปแบบรุนแรงอีกด้วย เพราะอย่างนั้นแล้วผมก็เลยมักจะถูกเพื่อนพูดว่า “ปากร้าย” ล่ะนะ ความรู้สึกที่อ่อนโยนในชั่วระยะเวลาแปปเดียวนั้น…ผมรู้สึกถึงความรู้สึกนั้นเมื่อไหร่กันนะ? ตอนที่ผมไปทำงานแล้วพักอยู่ที่โรงแรม พอตอนกลางคืนพบกับคุณลุงคุณป้าในลิฟต์ ผมก็จะพูดว่า “ราตรีสวัสดิ์ครับ” ล่ะ เวลาที่ผมทำอะไรแบบนี้ ผมจะส่งเสียงออกไปอย่างชัดเจนเลยล่ะ แล้วพอผมพูดแบบนั้นแล้วพวกคุณป้าก็จะตอบกลับมาด้วยล่ะ มันค่อนข้างจะรู้สึกดีใจพอสมควรเลยล่ะนะ ผมคิดว่ามันอาจจะเป็นเรื่องธรรมดาที่จะทำอะไรแบบนี้ แต่ผมไม่คิดว่า เรื่องที่ผมทำนั้นมันจะเป็นเรื่องที่แสดงถึงความ “อ่อนโยน” เป็นพิเศษอะไรสักเท่าไหร่หรอกมั้ง เปรียบเทียบตัวผมที่เป็นแบบนั้นแล้วล่ะก็ ยามะจังกับยูมะน่ะใจดีมากเลย~! ยามะจังน่ะ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตามแต่ เค้าจะถามผมด้วยคำถามว่า “อยากกินข้าวอะไรหรอ?” อย่างแน่นอนเลยล่ะ แต่ว่าผมเป็นคนที่มีอาหารที่ชอบและที่เกลียดเยอะแยะไปหมดเลยล่ะนะ(หัวเราะ) ยูมะน่ะ เวลาที่ผมเล่นมุขไปเค้าก็จะเล่นมุขตอบผมกลับมาด้วยล่ะ เพราะอย่างนั้นแล้วเวลาที่คุยกันมันก็จะรู้สึกสนุกสนานขึ้นมาเลยล่ะ ผมคิดว่าตรงนี้นี่แหละที่เค้าดู ใจดีจังเลยน้า~ ล่ะ

แม้กระทั่งว่าจะเป็นเด็กผู้หญิงก็ตามแต่ ผมคิดว่าผมจะไม่มีทางพูดอะไรที่ดูโรแมนติกแล้วก็อ่อนหวานกับเธออย่างแน่นอนเลยล่ะ แต่ว่าผมจะอ้อนเธอล่ะ! ถ้าสมมติว่าผมมีแฟนล่ะก็ ไม่ว่าจะอายุมากกว่าหรือน้อยกว่าผมก็จะไม่สนใจเรื่องนั้น และจะอ้อนเธอล่ะน้า ก็คงเพราะว่า แม้แต่เมมเบอร์หรือเพื่อนผู้ชายผมก็อ้อนหมดล่ะมั้ง ถ้าถือสัมภาระอะไรอยู่ล่ะก็ ผมก็จะยื่นมือไปและพูดว่า “ส่งมือมาสิ นั่นแหละ♥” ล่ะ(หัวเราะ) แต่ถ้าผู้หญิงอ้อนผมแล้วล่ะก็ อาจจะทำแบบนี้ก็ได้(แสดงท่าทางโดยการหลับตาพริ้มและซบหัวลงบนบ่า) ปรกติแล้วผู้หญิงก็จะเป็นฝ่ายที่ซบบ่าผู้ชายแล้วก็จะประสานมือกันและกัน แต่ว่าผมคิดว่าผมอาจจะเป็นฝ่ายที่ทำแบบนั้นแทนล่ะ(หัวเราะ) เพราะว่าผมไม่ค่อยคำนึงถึงว่า เป็นผู้ชายแล้วต้องดึงดูดให้ผู้หญิงทำแบบนั้นกับเรา! ล่ะมั้ง

พูดถึง “ความอ่อนโยนจากใจจริง” มันค่อนข้างที่จะพูดได้ยากสักหน่อย แต่ว่ามันจะต้องเป็นเรื่องที่ ไม่ว่าอะไรก็พูดแล้วก็บอกเราในทุกๆอย่างล่ะนะ อย่างเช่น “ตรงนี้นายทำผิดพลาดนะ” ล่ะ แม้ว่าเค้าจะพูดด้วยท่าทีที่เหมือนไม่ชอบ แต่ผมคิดว่าว่าการพูดอะไรแบบนี้มันแสดงความอ่อนโยนและการเอาใจใส่นะ ผมคิดว่าคนที่เป็นแบบนั้นน่ะ ให้ความสำคัญกับสิ่งที่พบเห็นนะ ในตอนนี้ตัวผมนั้นคิดว่าคนๆนั้นก็คือคุณแม่ของผมล่ะ แม้จะกระทั่งถึงตอนนี้ก็ตาม บางครั้งบางคราวคุณแม่ก็ตักเตือนหรือดุผมในเรื่องที่ห้ามทำด้วยเหมือนกันล่ะ

นากายามะ ยูมะ

ผมคิดว่าผมไม่ได้เป็นคนที่ใจดีอะไรหรอก แล้วก็ตัวผมเองก็ไม่คิดว่าจะมีช่วงเวลาที่รู้สึกอยากจะอ่อนโยนด้วย แล้วผมก็ไม่เคยถูกคนพูดว่าผมเป็นคนอ่อนโยนอีกด้วย แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่ใจดีหรอกนะ คนที่ผมจะใจดีด้วยมากที่สุดก็คือน้องสาวของผม ผมพาเค้าไปซื้อของบ้าง พาไปเที่ยวเล่นบ้าง เวลาที่น้องสาวผมพูดว่าอยากไปเกมส์เซ็นเตอร์ ผมก็จะพาเค้าไปล่ะ แต่ว่าถ้าตัวผมกำลังใจจดใจจ่อในการดูอะไรสักอย่างในโทรทัศน์อยู่ แม้ว่าจะมาพูดกับผมว่า “พาไปที” ก็ตาม ผมก็จะปฏิเสธออกไปอย่างเด็ดขาดว่า “ไม่มีทาง!” ล่ะ ผมคิดว่าถ้าจะให้พูดถึงตัวผมที่ดูไม่เอาจริงเอาจัง ตามใจตัวเอง หละหลวม~ล่ะก็ ผมคิดว่าน่าจะเป็นนิสัยของผมตรงที่ขี้ใจอ่อนเวลามีคนมาอ้อนขออะไรสักอย่างล่ะ ถ้ามีคนพูดกับผมว่า “ซื้อนี่ให้ที” ไม่ว่าคนที่พูดกับผมจะเป็นใครก็ตามแต่ ผมก็จะซื้อให้ทั้งนั้นแหละ แต่ถ้าเป็นผู้หญิงแล้วล่ะก็ ผมอาจจะยิ่งอ่อนข้อให้ยิ่งกว่าเดิมก็เป็นได้นะ!? ทั้งๆที่ถูกทำแบบนั้นแล้วแท้ๆผมก็ยังยอมให้ล่ะน้า~

สำหรับผมแล้วหากพูดถึงความอ่อนโยนที่มาจากใจจริงแล้วล่ะก็ ผมคิดว่ามันคือ การนิ่งเงียบไม่พูดอะไรล่ะ คนที่ไม่พูดหรือคัดค้านอะไร เงียบและรับฟังเรา ในทัศนะคติในมุมที่ผมคิดก็คือ เป็นคนที่ไม่ว่าผมจะคุยเรื่องแบบไหนก็ตาม ก็จะรับฟังและตอบกลับมาว่า “อื้มๆ” และเป็นคนที่รับฟังเรื่องราวที่เราพูดได้ล่ะ ผมยังไม่เคยเจอคนแบบนั้นเลยนะ ถ้าถามว่าทำไมผมถึงคิดแบบนั้นแล้วล่ะก็ สำหรับผมแล้วเวลาที่มีอะไรทำให้รู้สึกหงุดหงิดหรือไม่พอใจ ผมอยากจะเปิดเผยความรู้สึกที่มีทั้งหมดในใจออกไปอย่างเปิดเผยให้ใครสักคนหนึ่งฟังล่ะ ส่วนใหญ่แล้วถ้าผมพูดอะไรแบบนั้นออกไปโดยทั่วไปก็จะพูดค้าน หรือโต้แย้งขึ้นมาทำนองว่า “เรื่องนั้นมันไม่ใช่แบบนั้นไม่ใช่หรอ” ล่ะนะ~ พอมาค่อยๆลองคิดอย่างใจเย็นๆแล้วล่ะก็ มันอาจจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องก็เป็นได้ แต่ว่าเวลาที่ผมรู้สึกหงุดหงิดผมก็จะคิดและพูดออกไปว่า “ช่างมัน ฟังก่อนเถอะ!”ล่ะ ผมเป็นคนดื้อรั้นเอาแต่ใจตัวเองหรือเปล่านะ?

ความใจดีของยามะดะคุง นั้นก็คือตอนที่เขาพูดกับผมว่า “ถ้ามาที่โตเกียวเมื่อไหร่ก็ติดต่อมาหากันด้วยนะ” ล่ะ แล้วเราก็ไปทานข้าวด้วยกันบ้าง เวลาที่ผมอยู่คนเดียวในห้องแต่งตัวของHey!Say!JUMPล่ะก็เขาจะใส่ใจและแคร์ความรู้สึกผมโดยการเข้ามาคุยกับผมล่ะ จิเนนคุงนั้นเป็นคนที่เวลาอยู่ด้วยกันแล้วจะรู้สึกสนุกสนานมากเลย เขาจะใส่ใจและแคร์ความรู้สึกผมเวลาที่เขาอยู่ที่ห้องแต่งตัวของJUMP เขาก็จะพูดกับผมว่า “มาที่นี่ดูสิ?” ล่ะ ผมรู้สึกอยากขอบคุณเขามากเลยนะ พูดเกี่ยวกับเรื่องความหวาน? พื้นฐานแล้วผมเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบ พวกเค้กก็ด้วย แต่ว่าเป็นช็อคโกแลคก็OKนะ เพราะอย่างนั้นแล้วเวลาที่มีเค้กในช่วงวันเกิดหรือช่วงคริสมาสต์ ผมจะให้ความสำคัญกับความสนุกสนานมากกว่าเค้กอีกนะ เพราะฉะนั้นแล้ว ผมจะซึมทราบแค่คำพูดจากผู้คนเท่านั้นแหละครับ

Credit : ALLABOUTHEYSAYJUMP